Denim Dictionary

เดนิมเป็นผ้าคอตตอนหรือผ้าทอฝ้ายลายทแยงที่มีความทนทาน มักน ามาใช้ทากางเกงยีนส์ แจ็กเกต

วิธีสร้างผ้าเดนิมคือการถักด้ายตั้งแต่สองเส้นขึ้นไป ในแนวนอนสลับกับแนวตั้ง กระบวนการนี้ทาให้ผ้าเดนิมเกิดเป็นเส้นทแยงที่แตกต่างกับ Cotton duck แม้ชื่อจะเหมือนเป็นตุ๊กตายัดนุ่น แต่ที่จริงแล้วเป็นชื่อของผ้าแคนวาสหรือผ้าใบ ในลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับผ้าเดนิม

แน่นอนว่าผ้าอเมริกาฉบับดั้งเดิมนั้น มีต้นกาเนิดจากประเทศอเมริกา แต่หากพูดถึงผ้าเดนิมที่เก่าแก่ที่สุดนั้น มันถูกสร้างเมื่อปี 1850 ในเมือง Nimes ประเทศฝรั่งเศส มีที่มาจากผ้าเสริท (Serge Fabric) หรือผ้าทอลายทแยงที่ใช้กันทั่วไปในเครื่องแบบทหาร มันถูกตั้งชื่อตามแหล่งกาเนิดของมันเอง serge de Nimes หลังจากนั้นก็ถูกย่อให้เหลือเพียง "de Nim” ผ้าเดนิมในตอนแรกนั้นไม่ใช่ผ้าคอตตอนเดนิมในแบบที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน มันเป็นการผสมผสานจากไหมและขนสัตว์ ปัจจุบันนี้ ผ้าคอตตอนเดนิมทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในประเทศอังกฤษ และถูกนาไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นที่โรงงานหนึ่งในอเมริกาเป็นเวลาต่อมา

ผ้าเดนิมถูกใช้เป็นกางเกงทางานตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ซึ่งในสมัยนั้นเอง ไฟฟ้ายังไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น จึงไม่มีใครรู้ว่าผู้ใส่นาไปทาความสะอาดอย่างไรหลังการใช้งาน แต่ถ้าให้พูดถึงกางเกงยีนส์สีน้ าเงินตัวแรกนั้น เกิดขึ้นในวันที่ 20 พฤษภาคม 1873 เมื่อ Levi Strauss & Co. และ Jacob Davis ได้รับสิทธิบัตร #139,121 จาก U.S. Patent and Trademark Office ส าหรับวิธีการติดหมุดโลหะบนกางเกงผ้าเดนิมของผู้ชายเพื่อเสริมความแข็งแรง

Blue Jeans นั้นทาขึ้นจากผ้าเดนิม ที่ถูกเสริมความทนทานด้วยหมุดโลหะ โดยในปี 1873 Levi Strauss และ Jacob Davis ได้ผสมผสานคุณภาพของผ้าเดนิมเข้ากับหมุดทองแดงที่ได้รับการจดสิทธิบัตร จึงกลายมาเป็นยีนส์ Levi’s® ตัวแรกของโลก

นี่คือผ้าเดนิมแท้ เป็นที่รู้จักกันในผ้าเดนิมแบบแห้งหรือที่เหล่าคนรักยีนส์เรียกกันว่า ยีนส์ผ้าดิบ มันคือผ้าเดนิมที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการซักหรือการทาให้หดตัวใดๆ ในการผลิต เหมือนยีนส์ทั่วๆ ไปในปัจจุบันนี้ เพื่อทาให้เนื้อผ้านุ่มขึ้น และลดการหดตัวหลังการสวมใส่และการน าไปทาความสะอาด

hrink-to-Fit™ คือผ้าเดนิมที่ไม่ผ่านกระบวนการแซนฟอร์ไรซ์ นั่นคือมันจะไม่ถูกทาให้หดตัวระหว่างการผลิต ความพอดีและรูปลักษณ์ที่อาจเปลี่ยนไปล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าชนิดนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการซัก การสวมใส่ และการดูแลกางเกงยีนส์ของคุณ Tips: นี่คือวิธีการเลือกซื้อยีนส์ในปี 1960 คือการที่คุณจงใจซื้อมาในขนาดใหญ่เกินไป แล้วค่อยทาให้มันหดเล็กลงในภายหลัง

การดีไซน์กระเป๋า 5 ช่อง อีกหนึ่งดีไซน์สุดคลาสสิกจาก Levi’s® ในการออกแบบยีนส์หรือกางเกงที่มีกระเป๋าหลัง 2 ช่อง กระเป๋าหน้า 2 ช่อง และกระเป๋าเล็กๆ ที่สะโพกขวาด้านหน้าอีก 1 ช่อง (บ้างก็ถูกเรียกว่า“กระเป๋าใส่เหรียญ”)

อีกขั้นของ Levi's® Trucker Jacket รุ่นออริจินัล สู่ Sherpa Trucker Jacket ปกป้องคุณจากอากาศเย็นด้วยผ้าเชอร์ปาแบบขน พร้อมตัวซับในที่บุนวมนุ่มๆ ตรงแขนเสื้อ

แจ็กเกต Levi's® Trucker Jacket คือรุ่นออริจินัลและเป็นต้นแบบส าหรับแจ็กเกตยีนส์ในทุกวันนี้ พิเศษกว่าเพราะถูกเสริมด้วยหมุดโลหะ Shank Button และดีไซน์ของ Levi’s® ที่มีต้นกาเนิดมาตั้งแต่ปี 1962

เสื้อยืดรุ่นนี้ได้รับการออกแบบตามดีไซน์จาก Levi's® Archives โดยมีกระเป๋าเสื้อทรง Sunset เช่นเดียวกันกับของเวอร์ชันในปี 1902

เสื้อเชิ้ตสไตล์คาวบอย พร้อมกับการออกแบบ Yoke หรือลวดลายของช่วงท่อนบนของเสื้อ บริเวณคอหรือไหล่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เช่นเดียวกันกับรูปแบบกระเป๋าที่ต่างกันออกไป เช่น “Barstow” ในฉบับของ Levi’s® คือกระเป๋าเสื้อที่มีกระดุมแป๊กด้านหน้าเพียงใบเดียว หรือ “Sawtooth" ที่กระเป๋าเสื้อมีกระดุมแป๊กด้านหน้า 2 ใบ สไตล์แบบตะวันตกนี้มักจะมีตัวปิดด้านหน้าแบบ Snap แทนการใช้กระดุม เพื่อลดความจาเป็นในการซ่อมแซม

มองข้ามชื่อไปก่อน Anti-Fit ไม่ได้แปลว่าเสื้อผ้าที่ไร้ความพอดี มันเป็นเพียงกางเกงยีนส์ชายของเราในทรงที่หลวมขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อตั้งใจให้มีพื้นที่ที่คล่องตัวมากขึ้นในส่วนบั้นท้าย ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Biker บรรดานักซิ่งทั้งหลายในช่วงปี 1950s ลองจินตนาการถึงความสบายเมื่อได้สวมใส่ และลุคเท่ๆ ที่คุณจะได้รับดูสิ

การเย็บตะเข็บที่กระเป๋าหลังอันขึ้นชื่อของยีนส์ Levi’s® คุณพอเดาได้ไหมว่าทาไมมันต้องเป็น “Arcuate” ? มันคือเส้นโค้ง Arcuate เหมือนโครงของคันศร ราวกับเป็นเครื่องหมายการค้าของเรา หนึ่งในดีเทลที่ทั่วโลกต้องรู้จัก และเราเชื่อว่าเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องสังเกตเมื่อเห็นใครสักคนกาลังใส่ยีนส์ Levi’s® Fun fact: เราเคยใส่มันลงไปบน “Waist Overalls” และนั่นคือชื่อแรกของ Blue Jeans หรือกางเกงยีนส์สีน้ าเงินที่ได้จดสิทธิบัตรในปี 1873

ยีนส์ของเรานั้นแข็งแรงมากถึงขนาดที่ว่า ใช้ม้าสองตัวดึงไปกันคนละฝั่ง ก็ยังไม่สามารถฉีกกางเกงออกจากกันได้ เป็นอีกสิ่งที่ Patch ของเราได้บอกใบ้ไว้แล้ว จนทุกวันนี้ แม้เราจะไม่ได้ใช้ม้าเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งแล้ว ป้ายหนังทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนกระเป๋าหลังด้านขวาของเราก็ช่วยตอกย้ าว่าคุณกาลังสวมใส่ต้นฉบับของกางเกงยีนส์ที่ขึ้ นชื่อเรื่องความทนทานระดับตานาน

การเย็บแบบซิกแซ็กที่ช่วยเสริมความแน่น ความแข็งแรง และความทนทาน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เราใช้วิธี Bar Tacks แทนการใช้หมุดโลหะ เพื่อทดแทนการใช้เหล็กซึ่งกาลังจาเป็นมากในช่วงเวลานั้น

การเย็บแถบผ้าที่ขอบเอวกางเกงไว้เพื่อยึดเข็มขัด กางเกงจะได้ไม่หลุดไงล่ะ

กระดุมโลหะด้านหน้า ใช้เป็นส่วนใหญ่ในกางเกงยีนส์ Levi’s® 501®

ตะเข็บลูกโซ่ เกิดจากเทคนิคการเย็บผ้าที่มีตะเข็บแบบวนซ้า ทาให้ลักษณะดูคล้ายกับโซ่ ซึ่งมันดูจริงมาก เหมือนกับเป็นลายปักที่ตั้งใจสร้างภาพวาดบนเนื้อผ้า

หรือกระเป๋าใส่เหรียญ ใบเล็กๆ บริเวณฝั่งขวาด้านหน้า เดิมเคยเป็น ‘กระเป๋าใส่นาฬิกา’ แต่ถ้าวันไหนคนเลิกใช้เหรียญ ซึ่งน่าจะในเร็วๆ นี้ เราก็คงต้องหาชื่ออื่นมาแทนมัน

คือการที่สีย้อมของยีนส์ไปติดบนผ้าหรือพื้นผิวอื่นๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ มักเกิดขึ้นกับผ้ายีนส์ดิบหรือยีนส์สีครามเข้ม และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุว่าทาไมพนักงานใน Levi’s® ไม่มีใครใช้โซฟาสีขาวเลย

ชายเสื้อที่มีความยาวกว่ามาตรฐานเล็กน้อย

เป็นศิลปะการใช้เข็มและด้ายในการตกแต่งเสื้อผ้า เป็นที่นิยมในกลุ่มฮิปปี้แห่งยุค ‘60s ไปจน ‘70s การสร้าง Embroidery นั้นทาให้ยีนส์แต่ละตัวมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป แบบที่มีเพียงตัวเดียวบนโลก เรียกได้ว่าเรามาไกลกันมาก จากที่เริ่มต้นเพียงสัญลักษณ์ Peace กับลายสายรุ้ง คุณสามารถสร้างลายปักใหม่ที่เป็นสไตล์ของตัวคุณเองได้ที่ Tailor Shop ของเรา

เป็นเทคนิคหนึ่งในการเย็บผ้าสองชิ้นเข้าด้วยกัน เช่นตรงส่วนขาของยีนส์ เราจะเหลือผ้าส่วนเกินไว้ประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นเย็บตะเข็บแล้วกดให้เรียบ ให้ส่วนเกินที่เหลือไว้ช่วยป้องกันตัวด้าย เนื่องจากมันสามารถหลุดลุ่ยได้จากการสวมใส่ หากไม่ใช้วิธีนี้ ตะเข็บจะถูกทาลายและทาให้ยีนส์ขาดจากกันในที่สุด ซึ่งวิธีนี้เองทาให้ยีนส์สามารถใช้งานได้ยาวนาน

การกลับชายของผ้าขึ้นและเย็บ โดยทั่วไปมักทาตรงส่วนล่างของกางเกงยีนส์หรือขากางเกง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ชายผ้าดิบหรือชายผ้ารุ่ยๆ กลับมามีสไตล์อีกครั้ง ขอบคุณที่เทรนด์นี้ช่วยประหยัดเวลาให้เรามากยิ่งขึ้น!

คือการวัดความยาวด้านในของขากางเกงแต่ละข้าง จากต้นขาไปจนด้านล่างของในกางเกง

ลโก้ “batwing” ของเรา เป็นซิกเนเจอร์ของ Levi’s® พอๆ กับลายตะเข็บ Arcuate ที่กระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงคุณภาพและความแท้ของ Levi’s®

ตรงกันข้ามกับ Inseam นี่คือการวัดความยาวด้านนอกของขากางเกงแต่ละข้าง จากต้นขาไปจนด้านล่างของในกางเกง

เดิมทีนั้นถูกใช้กับกางเกงยีนส์ที่มีผ้าบาง แต่ทุกวันนี้ Patches กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งกางเกงยีนส์ที่ให้สไตล์ความวินเทจได้เป็นอย่างดี

เป็นชิ้นส่วนของหมุดโลหะที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเสื้อผ้า ซึ่งถูกใช้บนกางเกงตัวแรกและจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1873 โดย Levi Strauss & Co. และ Jacob Davis ซึ่งเป็นที่รู้จักในปัจจุบันในรูปแบบ Blue Jeans โดยหมุดโลหะบน 501® Jeans ของเราทาจากทองแดงและได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระเป๋าโดยเฉพาะ

ช่วงล่าง ด้านหลัง บั้นท้าย พอจะเข้าใจไหมว่าเราพูดถึงส่วนไหน แต่เนื่องจากนี่เป็น Dictionary นี่คือคาอธิบายในเรื่องเทคนิคของเรา: เราขยายพื้นที่กางเกงในส่วนบั้นท้ายของส่วนบนกางเกงยีนส์ไปจนช่วงกระเป๋า

Shank Buttons คือกระดุมที่มีรูเล็กๆ ที่ด้านหลังเพื่อให้เส้นด้ายลอดผ่านได้

พื้นที่ตั้งช่วงล่างสะโพกไปจนเอว และยังสามารถใช้อธิบายความแน่นที่ช่วงสะโพก ไม่ว่าจะเป็นทรง slim, skinny หรือ relaxed

เครื่องหมายการค้านี้ดีไซน์มาเพื่อน าเสนอความแข็งแกร่งของเสื้อผ้า เราติดลาย Two Horse Pull บนป้ายหนังของกางเกงยีนส์ "XX" ครั้งแรกในปี 1886 เป็นภาพของม้าสองตัวที่พยายามดึงกางเกงยีนส์ให้ขาดออกจากกัน แต่แน่นอนว่ามันทาไม่ได้ เพราะยีนส์ของเรานั้นทนทานเหนือแรงม้าไปอีก

หลายคนอาจเคยเห็นแถบผ้าที่เอวของกางเกงยีนส์ มันคือ Waistband เป็นแถบผ้าที่มักประกอบด้วยกระดุมด้านหน้าและหูเข็มขัด

การทอผ้าโดยวิธีที่ให้ชุดของเส้นด้ายยึดไว้เป็นแนวตั้งกับเครื่องทอผ้า ไม่ได้แปลว่า Warp ที่จะทาให้กางเกงยีนส์ของคุณเว้าแหว่ง

การทอผ้าโดยวิธีที่ให้ชุดของเส้นด้ายยึดไว้เป็นแนวนอนหรือทอผ่านเส้นด้ายแนวตั้ง ตลอดความกว้างของผ้า เพื่อยึดเนื้อผ้าให้แน่น

เจอได้บ่อยในเสื้อสไตล์ Western ของ Levi’s® โดยปกติแล้วจะเป็นลวดลายที่อยู่ด้านบนของเสื้อ มักอยู่ที่ช่วงบริเวณคอหรือไหล่ จะเป็นลายโค้งหรือลายตรงก็ได้

หมายถึงซิปรูดเพื่อเปิดปิดที่อยู่ด้านหน้าของกางเกงยีนส์ กางเกง กางเกงขาสั้น หรือกระโปรง

เป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการซักล้างด้วยหินฟอกขาวเพื่อสร้างลายหินอ่อนบนผ้าเดนิม

สีพื้นหรือสีที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้สีของผ้าเดนิม ซึ่งสามารถมี Cast ได้หลายแบบ เช่น แดง เขียว หรือเหลือง ขึ้นอยู่กับการย้อมหรือเทคนิคใดๆ

ดีไซน์ของกางเกงยีนส์ที่มีความหลุดลุ่ย ฉีกขาด และนามาซ่อมแซม เพื่อสร้างดีเทล สร้างชีวิตชีวาให้กับร่องรอยเหล่านั้น

ขึ้นชื่อในเรื่องความนุ่มและการระบายอากาศ ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ใช้กันทั่วไปในเสื้อผ้าทุกประเภท เช่นเดียวกับ Levi’s® ที่กางเกงยีนส์ของเราส่วนใหญ่นั้นทามาจากผ้าฝ้ายเช่นกัน

ผ้าที่ถูกเคลือบเพื่อป้องกันของเหลวและสิ่งสกปรกที่อาจติดบนเนื้อผ้าได้

อีกชื่อหนึ่งของผ้า Spandex เป็นเส้นใยที่ขึ้นชื่อในเรื่องความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ใช้ส าหรับเพิ่มความยืดและการคืนตัวให้กับเสื้อผ้า ผ้าเดนิม Levi’s® ผลิตด้วยอีลาสเทนในปริมาณต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับของความยืดหยุ่นที่ต้องการ ซึ่งเสื้อผ้าบางชิ้นสามารถใช้ในการออกกาลังกายได้อีกด้วย

คือหน่วยวัดออนซ์ต่อตารางหลาของผ้า ผ้าเดนิมโดยทั่วไปจะทอด้วยน้ าหนักตั้งแต่ 4 ถึง 15 ออนซ์ ซึ่งผ้าเดนิมน้ าหนักเบานั้นมีความสะดวกสบาย และง่ายต่อการนาไปตกแต่งเช่นการเจาะ แต่ถ้าเป็นผ้าเดนิมแบบมีน้ าหนัก จะมีความทนทานและแข็งแรงมากกว่า

ผ้าถักน้ าหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสูงสุด มักใช้ในสเวตเตอร์ แจ็กเกต ผ้าพันคอ และหมวก แล้วถ้าถามว่ามันนุ่มสบายขนาดไหน? ก็ขนาดที่ว่าคุณสามารถใส่ได้สบายๆ ในวันแดดร้อนๆ เลยล่ะ

ผ้าเดนิมหนัก 13 ออนซ์ หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตารางหลาของผ้า

ผ้าถักเนื้อนุ่ม น้าหนักเบาพิเศษ มักน าไปใช้ทาเสื้อยืด

เดนิมที่มีน้ าหนักน้อยกว่า 10.5 ออนซ์ต่อตารางหลาของผ้า เหมาะกับสไตล์ในวันที่อากาศอบอุ่น

เส้นใยธรรมชาติที่มีน้ าหนักเบาแต่ทนทาน ได้มาจากต้นแฟลกซ์ ผ้าลินินมักใช้ในเสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน เนื่องจากมีการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม

เป็นชื่อของผ้าฝ้ายลายสก๊อตน้ าหนักเบา ใช้กับเสื้อผ้าที่ใส่ในฤดูร้อน เช่น กางเกงขาสั้นและเดรส

เดนิมที่มีน้ าหนักอยู่ระหว่าง 10.5 ออนซ์ และ 12.5 ออนซ์ต่อตารางหลาของผ้า ซึ่ง Levi’s® เองใช้ผ้าชนิดนี้เป็นส่วนใหญ่

ผ้ายีนส์ยืดของ Levi’s® ที่ผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อความสบาย ง่ายในทุกการสวมใส่

คุณเคยอบผ้าเสร็จ แล้วมันกลายเป็นเสื้อเด็กรึเปล่า? Preshrunk denim จะทาให้คุณไม่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Sanforized” Preshrunk denim ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการหดตัวของผ้าหลังจากซักและตากแห้ง เริ่มวางจาหน่ายในปี 1960 เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านั้น ยีนส์เป็นผ้า Shrink-to-Fit™ ทั้งหมด

เดนิมที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการซักหรือการทาให้หดตัวใดๆ ในการผลิต จะมีความกระด้างกว่าปกติ เมื่อผ่านการซักและใช้งานเป็นเวลานาน มันสามารถหดตัวลงไปประมาณ 2 ไซซ์ จนพอดีกับรูปร่างของคุณ

เป็นผ้าฝ้ายที่มีลักษณะคล้ายผ้าผ้าซาติน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม เรียบ และมีความเงา

เมื่อคุณภาพมาเจอกับความทนทาน Selvedge Denim คือผ้าที่ทอโดยใช้เครื่องทอผ้าที่เราสร้างขึ้นเองโดยอิงจากโครงแบบดั้งเดิม ค าว่า “Self-Edge” จึงเป็นที่มาของคาว่า “Selvedge” คุณสามารถชี้ได้เลยว่าชิ้นไหนคือยีนส์ที่ได้จากผ้าชนิดนี้ ดูได้ที่ด้านในของตะเข็บด้านนอก หากคุณหมุนขากางเกงดู ก็จะพบกับแถบที่มีลายตรงกลาง ความแปลกและสวยงามเช่นนี้ จึงทาให้ผ้าเดนิม Selvedge นั้นแตกต่างจากเดนิมชนิดอื่นๆ โดยสิ้นเชิง

ผ้าเนื้อหนานุ่ม แต่เดิมทามาจากขนแกะ ปัจจุบันนั้นใช้เป็นโพลีเอสเตอร์แทน มักใช้ติดเสื้อผ้าเช่น Trucker Jackets เพื่อเพิ่มความอบอุ่น คิดถึงตุ๊กตาขนฟูๆ ตัวโปรดในวัยเด็กของคุณดูสิ นี่แหละคือความนุ่มสบายที่เราหมายถึง

นี่คือเส้นด้ายหนา ที่ตั้งใจสร้างให้มีพื้นผิวที่ไม่สม่าเสมอ สร้างเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ให้กับผ้าทอหรือผ้าถัก

Spandex หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'เส้นใยมหัศจรรย์' ในช่วงปี 1970 ที่ดิสโกกาลังมาแรง เหมือนได้สวมกางเกงวอร์มรัดรูปหรือเสื้อท่อนบนสีเมทัลลิกที่โดดเด่นในยามค่าคืน มันขึ้นชื่อเรื่องความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ จึงไม่จากัดการขยับร่างกายของคุณ ไม่ว่าจะในที่ทางานหรือบนฟลอร์เต้นรา โดยที่กางเกงยีนส์ของคุณไม่เสียทรงเลย

เดนิมผ้ายืดสร้างมาจากการผสมผสานของผ้าฝ้ายและอีลาสเทน (หรือผ้า Spandex นั่นเอง) เพื่อความสะดวกสบายและการคืนตัวของเนื้อผ้า

ผ้าไหม มีความนุ่มและมันเงา เป็นผ้าที่ทาจากเส้นใยที่ผลิตโดยตัวไหม

เส้นใยไลโอเซลล์ผลิตโดย Lenzing ตัว Tencel® ทาจากยูคาลิปตัสจากป่าที่เติบโตด้วยความยั่งยืน ให้เนื้อสัมผัสคล้ายกับเรยอน

เส้นใยที่ออกแบบเพื่อดูดซับความชื้นออกจากร่างกาย มีฉนวนป้องกันอุณหภูมิ จึงช่วยทั้งการทาให้คุณคลายร้อนได้ และยังช่วยให้คุณรู้สึกอบอุ่นในสภาพอากาศที่เย็น

ผ้าทอน้ าหนักเบา มีพื้นผิวเป็นลายทแยง ซึ่งเดนิมของเราทามาจากผ้าฝ้ายทวิลล์ ผสมด้ายที่ถูกย้อมด้วยสีคราม จึงมีความแข็งแรงทนทานสูง

ผ้าชนิดกันน้าได้ ผ่านการเคลือบพื้นผิวที่ออกแบบมาเพื่อให้น้ าจับตัวเป็นหยดแล้วไหลลงจากผ้าได้เลย ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเมื่อโดนน้าหกใส่ หรือแม้กระทั่งในวันฝนตก

ผ้ากันน้าที่ถูกทออย่างแน่นหนา หรือบางชนิดผ่านการเคลือบพื้นผิวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ าซึมบนผ้า

เป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการซักล้างด้วยหินฟอกขาวเพื่อสร้างลายหินอ่อนบนผ้าเดนิม

สีพื้นหรือสีที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้สีของผ้าเดนิม ซึ่งสามารถมี Cast ได้หลายแบบ เช่น แดง เขียว หรือเหลือง ขึ้นอยู่กับการย้อมหรือเทคนิคใดๆ

ปัญหาของกางเกงยีนส์ที่มีความหลุดลุ่ย ฉีกขาด และนามาซ่อมแซม เพื่อสร้างดีเทล สร้างชีวิตชีวาให้กับร่องรอยเหล่านั้น

การดูแลกางเกงยีนส์ที่ผ่านการตัด เย็บ และซักแล้ว เพื่อให้ยังคงความสวยงาม หรือเพิ่มการตกแต่งทั่วไป เช่น การทาให้เป็นฝอย การทาให้ยีนส์รุ่ย และการปัก

การใส่เสื้อผ้าทั้งชิ้นลงในอ่างย้อม เพื่อสร้างสไตล์วินเทจ เสื้อสเวตเตอร์หรือเสื้อเชิ้ตบางตัวของเราก็ได้ผ่านกระบวนการสุดพิเศษนี้เช่นกัน

การขัดผ้าด้วยมือ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการทาให้เกิดลาย หรือสร้างให้มีรายละเอียดเท่ๆ ที่ปกติแล้วจะเกิดขึ้นเองจากการแปรสภาพของยีนส์เมื่อเวลาผ่านไป

สีย้อมครามใช้เพื่อทาให้เดนิมมีสีฟ้าที่เข้มและเด่นชัด โดยผ่านการซักและสวมใส่เป็นประจา ทาให้ผ้าเดนิมดูเป็นศิลปะ ดูขลังมากขึ้น ทาให้เกิดลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร

การเคลือบเรซินเป็นเทคนิคการตกแต่งที่ช่วยให้ยีนส์มีความแข็ง เพิ่มลายและพื้นผิวความย่นแบบเท่ๆ

มีต้นกาเนิดจากญี่ปุ่น Shibori เป็นเทคนิคการย้อมโดยการมัดผ้าบางส่วนแล้วจุ่มลงในสีย้อม เพื่อให้ยีนส์สีครามได้ลวดลายแบบผ้ามัดย้อม

มาว่ากันถึง Rock 'n' Roll กันหน่อย Stonewashing คือการซักผ้าเดนิมด้วยหินภูเขาไฟเพื่อให้สร้างความสวยงามและเนื้อสัมผัสใหม่ เป็นอีกขั้นตอนของการตกแต่งยีนส์

เส้นริ้วๆ บนกางเกงยีนส์ มักเกิดบริเวณต้นขาหรือจุดที่เกิดการขยับตัว เป็นสไตล์ที่เราสร้างเองได้ เริ่มจากวาดเส้นบนกางเกงยีนส์ด้วยกระดาษทราย จากนั้นจึงน าไป Stonewash

ทรงของยีนส์ จะวัดจากกึ่งกลางกางเกงตั้งแต่ปลายขาจนถึงเอว โดยทรงทั่วๆ ไป เช่น High Rise, Mid Rise และ Low Rise

กางเกงยีนส์หรือกางเกงที่มีความสูงตรงช่วงเว้าของเอวพอดี ช่วยสร้างให้รูปร่างดูโดดเด่น

กางเกงยีนส์หรือกางเกงที่มีความสูงอยู่ประมาณด้านล่างของช่วงเว้าบริเวณเอว เป็นที่นิยมที่สุดในยีนส์ทั้ง 3 ทรง

กางเกงยีนส์หรือกางเกงที่ความสูงของเอวอยู่ต่าใกล้กับสะโพก ยีนส์ทรงนี้จะให้ลุคที่ดูสบายๆ คล่องแคล่ว และทะมัดทะแมง

ยีนส์หรือกางเกงที่มีขากว้างตรงช่วงปลายขา (หรือหากเป็นกางเกงขาสั้นก็จะเป็นช่วงต้นขา) ส่วนใหญ่ของยีนส์เราจะมีส่วนบนที่พอดีกับตัวคุณ และมีสไตล์ความกว้างของส่วนล่างขาที่แตกต่างกันเพื่อลุคที่ดูหลากหลาย

ยีนส์ทรงขาม้าหรือ Bootcut จะมีความกว้างตั้งแต่ช่วงเข่าไปจนข้อเท้า เดิมทียีนส์ทรงนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้พอดีกับรองเท้าทางาน แต่ไม่ใช่แค่เหล่าคาวบอยจะสวมมันได้อีกแล้ว!

เสื้อผ้าที่มีความสั้นกว่าปกติเล็กน้อย มักจะอยู่เหนือข้อเท้าหรือประมาณข้อเท้า เหมาะส าหรับวันที่อยากอวดรองเท้าคู่ใหม่ของคุณ

กางเกงยีนส์หรือกางเกงทรงออริจินัล ออกแบบให้มีขาตรง และความสูงอยู่ที่เอวของคุณ

ยีนส์ขาตรง หรือกางเกงขาตรง มีความกว้างในช่วงสะโพกและต้นขา

กางเกงยีนส์แบบสบายๆ มีความหลวมและพอดีตัว ซึ่งเหล่าพ่อๆ แม่ๆ อาจไม่เข้าใจสิ่งนี้

กางเกงยีนส์ที่มีความกระชับตั้งแต่เอวไปจนข้อเท้า

กางเกงยีนส์ที่มีความกระชับมากตั้งแต่เอวไปจนข้อเท้า แต่ก็ไม่ได้แน่นมากจนถอดมันออกไม่ได้