ข้ามไปยังเนื้อหา

วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสไตล์: ถามมา-ตอบไปกับนางแบบ KOKIE CHILDERS

The Science of Style: A Q&A With Model Kokie Childers

Kokie Childers (née Rae-Anne) ความสวนทางที่ลงตัว ในขณะที่เธอได้พัฒนาสไตล์ของเธออย่างต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่งเธอก็ความมั่นคงในสิ่งที่เธอเป็น ในมุมหนึ่ง เธอเป็นนางแบบที่เป็นที่ต้องการตัวและเป็นที่ดึงดูดความสนใจของแบรนด์ต่างๆ เป็นผู้กำกับที่สร้างสรรค์ เป็นบรรณาธิการนิตยสาร และอีกมุมก็เป็นนักวิทยาศาตร์สิ่งแวดล้อมที่ฉลาดหลักแหลมอีกด้วย หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ธอเลือกที่จะศึกษาต่อในอาชีพสาขาวิทยาศาสตร์ เธอเป็นคนที่มีพลังงานและจิตวิญญาณสูง เป็นคนรอบคอบ เห็นอกเห็นใจ และลึกซึ้งเกินกว่าอายุของเธอ ในความตึงเครียดของ 2 ฝากฝั่งนี้ เธอได้ครอบครองพื้นที่ระหว่างสองโลกที่แตกต่าง ราวกับอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์ เธอเป็นผู้หญิงที่โชว์ความเป็นแก่นแท้ของตัวตนได้โดยไม่ต้องพยายาม มีความดั้งเดิมแบบไร้ข้อสงสัย เมื่อเร็วๆ นี้เราได้พูดคุยกับ Queens, สาว New York ผู้มีเสน่ห์ เพื่อสนทนาเกี่ยวกับอัตตาทางวิทยาศาสตร และเส้นทางการมาเป็นนางแบบของเธอ กับคำถามที่ว่า เหตุใดเธอจึงหลงรัก Levi’s® 501® และใครเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ให้กับเธอ

สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร?

ฉันยังคงเปิดมุมมองใหม่ๆและพัฒนาสไตล์ของตัวเองอยู่ตลอด แต่ตอนนี้สไตล์ของฉันก็เป็นการผสมผสานระหว่างผลงานของศิลปินที่ฉันสนับสนุนในชุมชนของฉัน ฉันได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน ครอบครัวและแบรนด์ที่ฉันรู้สึกว่ากำลังสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ ใช้งานได้จริง ยั่งยืน และสวมใส่สบาย

อะไรที่ทำให้ LEVI'S® 501® โดดเด่นและเป็นไอคอนในความคิดเห็นของคุณ?

กางเกงยีนส์ Levi's® 501®เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไอคอนเพราะเป็นชุดที่สามารถเข้าได้กับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราทุกคนและที่สำคัญมันเติมเต็มลุคเดนิมในฝันให้กับฉัน ฉันชอบเดนิมรุ่น 501® มาก เพราะมันให้ความรู้สึกสบายและให้อิสระในการเคลื่อนไหวได้อย่างสง่างาม ความทรงจำ 501® ครั้งแรกของฉันอยู่ที่ร้าน L Train Vintage ใน Brooklyn, N.Y. มันคือที่ๆฉันถูกดึงดูดให้มองหาความโดดเด่น และด้วยรูปทรงที่ดูเก๋ไก๋และมีความเก๋าในตัว ฉันตัดสินใจซื้อยีนส์ตัวนั้นในทันที และนับจากวันนั้นฉันก็รู้ได้เลยว่า 501® ของฉันคือยีนส์คู่ใจในทุกสไตล์

 

คุณเข้าสู่วงการวิทยาศาสตร์ครั้งแรกได้อย่างไร? อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเรียนในสาขานี้

ตอนแรกฉันอยากเป็นศัลยแพทย์ตาเพราะเมื่อฉันยังเด็ก ฉันมีอาการที่เรียกว่าตาเหล่ทั้งสองข้าง เมื่อฉันได้รับการรักษาอาการดังกล่าวแล้ว ฉันอยากส่งต่อพลังและความมั่นใจเช่นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ตาของฉันมอบให้ฉันกับคนอื่นๆ ดังนั้นการเริ่มต้นในวิทยาศาสตร์ของฉันเกิดขึ้นจากการหลงใหลในเรื่องเกี่ยวกับสายตามนุษย์และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการรักษาทางสายตาและจักษุวิทยา ฉันเคยฝึกงานที่คลินิกทัศนมาตรศาสตร์ตอนศึกษาที่โรงเรียนมัธยมตอนปลาย และเมื่อฉันเริ่มเรียนในวิทยาลัย ฉันเรียนวิชาเอกทางชีววิทยาในช่วงสองปีแรกและมีแผนที่จะมุ่งสู่โรงเรียนแพทย์ต่อจากนั้น

คุณมีเป้าหมายเกี่ยวข้องกับการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม หัวข้อไหนที่คุณสนใจเป็นพิเศษในการศึกษาวิจัยข้อมูล?

ที่จริงแล้วฉันได้มีการเข้าร่วมห้องปฏิบัติการวิชาการเพื่อทำวิจัยในฐานะนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา นอกจากฉันได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับหลักสูตรดังกล่าวแล้วนั้น ฉันยังมีงานอดิเรกในการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของพืชพันธุ์ ผลไม้ เชื้อรา สาหร่าย และแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ หากฉันสามารถดำเนินการวิจัย ค้นหาและสำรวจสารประกอบที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีอยู่ในสิ่งเหล่านั้นได้ ฉันจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาวิธีแก้ปัญหาสำหรับความท้าทายต่างๆในด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวเคมี (biochemistry) สรีรวิทยาทางโภชนาการ (nutritional physiology) รวมถึงเคมีสีเขียว (green chemistry)

 

คุณเข้าร่วมวงการนางแบบได้อย่างไร ? เป็นโอกาสที่เข้ามาหรือเป็นเป้าหมายที่คุณใฝ่ฝันมาโดยตลอด?

เมื่อฉันศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยตอนปี 2 ได้มีครีเอทีฟด้านโฆษณาใน New York สนใจรูปลักษณ์ของฉันและชักชวนฉันร่วมงานถ่ายแบบ อันที่จริงฉันเคยมีผิวที่กระจ่างใส แต่ในช่วงวัยรุ่น ผิวของฉันเริ่มมีกระขึ้นบนใบหน้าของฉันใน และความผิดปกติดังกล่าวก็มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายปี ในช่วง2-3 ปีแรกของการทำงาน ฉันรู้สึกอายและไม่กล้าที่จะทะเยอทะยานในการเป็นนางแบบเพราะรูปลักษณ์ของฉัน แต่เมื่อฉันได้ตั้งใจและมีความมุ่งมั่นกับตัวงานจริงๆ อีกทั้งฉันยังรู้สึกซาบซึ้งกับการทำงานในการผลิตผลงานแต่ละชิ้นออกมาแล้วนั้น ฉันก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความประทับใจกับแบรนด์สินค้าและครีเอทีฟโฆษณาที่ฉันติดต่อด้วย ฉันเรียนรู้ที่จะรู้สึกสบายใจและมั่นใจกับตัวเองมากขึ้น และตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ร่างกายของฉันได้ผ่านมานั้นมีความสำคัญช่วยในการปรับตัวและเติบโตของเส้นทางชีวิตของฉัน วันนี้ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจในผู้คัดเลือกนักแสดง ช่างภาพ ตัวแทน แบรนด์สินค้า และผู้ช่วยสร้างสรรค์ผลงานทุกคนที่เปิดประตูสู่โอกาสในการเป็นนางแบบให้แก่ฉัน

คุณสร้างสมดุลระหว่างความสนใจทางวิทยาศาสตร์กับอาชีพนางแบบที่กำลังเติบโตของคุณได้อย่างไร?

ฉันสร้างสมดุลระหว่างแรงบันดาลใจทางวิทยาศาสตร์และความสำเร็จในวงการถ่ายแบบ โดยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฝึกนิสัยที่ตื่นเช้าและเตรียมพร้อมในแต่ละวัน ฉันต้องเตรียมความพร้อมในการติดต่อสื่อสาร โดยต้องมีการจัดระเบียบตารางชีวิตและรักษามาตราฐานในการทำงาน เพื่อที่ว่าหากมีโอกาสใดเข้ามา เช่น การคัดเลือกนักแสดงหรือการยืนยันการจองตัวถ่ายแบบ ฉันก็จะสามารถวางแผนตารางการทำงานของฉันได้ ฉันรู้สึกดีที่ได้ทำงานทางไกลในฐานะผู้สอนวิชาเคมี ดังนั้นฉันจึงกำหนดตารางเวลาทำงานของตัวเองให้อยู่ที่ 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเนื่องจากรูปลักษณ์ของฉันมีความเฉพาะเจาะจงมาก ฉันจึงไม่ได้มีการจองตัวถ่ายแบบแบบติดต่อกันหลายครั้ง (ทำให้ตารางงานยุ่งน้อยลง) แต่ทุกการจองที่ฉันได้รับ ฉันก็จะเตรียมความพร้อมและขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ฉันไม่ได้ไปเข้าร่วมทุกฤดูกาลของการคัดเลือกนักแสดงหรือแฟชั่นวีค แต่ฉันรู้ว่าฉันทำดีที่สุดแล้วและพยายามไม่คาดหวังสิ่งต่างๆ มากมายแต่เลือกที่จะมองหาความงดงามในสิ่งต่างๆ มากกว่า

อะไรคือแรงบันดาลใจของคุณในช่วงนี้?

Prince, Madonna และ Janet Jackson ล้วนเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของฉัน ฉันชื่นชมความสำเร็จของพวกเขาในด้านผลงานเพลง ด้านการให้สัมภาษณ์ และรสนิยมของพวกเขา ฉันซาบซึ้งกับข้อความที่พวกเขานำเสนอโดยไม่กลัวที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพอันจะนำไปสู่การเติบโต

คุณมีคติเตือนใจหรือสิ่งที่ช่วยแนะนำคุณในการใช้ชีวิตหรือไม่?

ฉันมีคำพูด ของ อิหม่าม อาลี ที่ใช้เป็นแนวทางในการใช้ชีวิต คำพูดน้ันคือ "สองสิ่งที่กำหนดชีวิตคุณคือ ความอดทนของคุณเมื่อคุณไม่มีอะไรเลยและทัศนคติของคุณเมื่อคุณมีทุกอย่างแล้ว"

ติดตามเทรนด์ เคล็ดลับ และแรงบันดาลใจในการแต่งตัวเพิ่มเติมได้ที่ Instagram แท็ก @levis.th และ #LiveInLevis เพื่อแชร์สไตล์ Levi's® ของคุณให้โลกรู้

ติดตาม @levis.th บน Instagram ได้เลย